วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สคบ.คุมเข้มสัญญา 3 ธุรกิจระวัง! ของฟรีราคาถูกเสี่ยงสูง

 สคบ.คุมเข้มสัญญา 3 ธุรกิจระวัง! ของฟรีราคาถูกเสี่ยงสูง

สคบ. - สคบ.คุมเข้มธุรกิจปลูกสร้างบ้าน, ไทม์แชริ่ง, ธุรกิจดูแลเด็ก-คนชราพ่วงธุรกิจว่าจ้างแม่บ้าน พร้อมยกร่างสัญญาขึ้นมาใหม่ให้เป็นสัญญากลาง สกัดผู้ประกอบการเอาเปรียบผู้บริโภค เร่งประชาพิจารณ์ก่อนเริ่มบังคับใช้ปลายปีนี้ เตือนของฟรี ราคาถูกผิดสังเกตให้ระวัง!

ร้อยตรีไพโรจน์ คนึงทรัพย์ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สำนักงานคณะกรรมการคุ้ม ครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผย “สยามธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ทาง สคบ. กำลังเร่งดำเนินการร่าง สัญญามาตรฐานหรือสัญญากลางขึ้นมาเพื่อควบคุม 3 ธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจรับ จ้างปลูกสร้างบ้าน, การให้บริการจัดสรรเวลาเข้าใช้สถานที่ พักหรือ “ไทม์แชริ่ง” และธุรกิจ บริการรับจ้างดูแลคนป่วยเด็ก และคนชรา เนื่องจากในช่วง ที่ผ่านมาทั้ง 3 ธุรกิจ ดังกล่าว มีการร้องเรียนเข้ามามาก

โดยในส่วนของธุรกิจการให้บริการจัดสรรเวลาเข้า ใช้สถานที่พักหรือ “ไทม์แชริ่ง” ขณะนี้ได้ยกร่างสัญญาเรียบร้อยแล้วอยู่ระหว่างประชาพิจารณ์คาดว่าจะประกาศใช้ภายในสิ้นปีนี้ มีเนื้อหาสาระหลัก คือผู้ประกอบการจะต้อง ระบุสถานที่พัก จำนวนห้องที่แน่ชัดว่ามีจำนวนเพียงพอกับลูกค้าหรือไม่ รวมถึงระยะเวลา ในการยกเลิกสัญญาการเข้าใช้บริการ เนื่องจากที่ผ่านมา ลูกค้าไม่สามารถรับรู้ข้อมูลทั้ง หมด ถูกเอาเปรียบจากการจัด เก็บค่าใช้บริการและไม่สามารถ ยกเลิกสัญญาก่อนกำหนด รวม ถึงไม่สามารถเข้าใช้บริการตามวัน เวลา สถานที่ผู้ประกอบการได้แจ้งไว้

“กลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการธุรกิจนี้ใช้คือ จะแจ้งทาง sms หรือทางโทรศัพท์มือถือว่าท่าน เป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลแพ็กเกจ ทัวร์พร้อมที่พักฟรีจากนั้นก็ใช้วิธีการโน้มน้าวให้สมัครสมาชิก แต่เมื่อลูกค้าเจอปัญหาดังกล่าวแล้วจะ ขอยกเลิก กลับไม่สามารถทำได้ เพราะสัญญาระบุว่าจะต้องชำระค่าสมาชิกให้ครบตามระยะเวลาที่กำหนดก่อนจึงจะบอกเลิกสัญญาได้”

ส่วนธุรกิจรับสร้างบ้าน ร.ต.ไพโรจน์ กล่าวว่าได้ยกร่างสัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยก่อนหน้านี้ทางสคบ.ได้เชิญผู้ประกอบการรับสร้างบ้านทั้งสองสมาคม คือ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน และสมาคมไทยรับสร้างบ้าน มาให้ข้อมูลและขอความเห็นไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะประชาพิจารณ์ในช่วงปลายปีนี้และคาดว่าจะประกาศใช้ในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า

“สัญญาดังกล่าวจะครอบคลุมถึงบริษัทรับเหมาก่อสร้างทั่วไป จะใช้ชื่อว่าร่างธุรกิจรับจ้างปลูกสร้างอาคารและที่พักอาศัยให้เป็น สัญญาควบคุม เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้บริโภคร้องเรียนเข้ามา มีทั้งบริษัทรับสร้างบ้านและ ผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อย ลักษณะปัญหาคือ ผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามสัญญา ส่งมอบบ้านไม่ตรงตามกำหนด สร้างบ้านไม่ได้มาตรฐาน หรือผิดไปจากแบบแปลนที่ตกลงไว้จนถึงขั้นทิ้งงาน ฉะนั้นร่างสัญญากลางจะระบุชัดเจน เช่น กำหนดค่าปรับให้เหมาะสมกับค่าเสียโอกาส หรือการคิดวันเริ่มก่อสร้าง จะให้นับตั้งแต่วันทำสัญญาไม่ใช่วันลงเสาเข็ม เพราะถ้าผู้รับเหมาฯไม่ลงเสาเข็มสักทีก็ไม่ได้นับวันเริ่มก่อสร้าง เป็นต้น” ร.ต.ไพโรจน์ กล่าว

ซึ่งก่อนหน้านี้ นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน กล่าวว่ากรณี การนับระยะเวลาเริ่มต้นตามสัญญาสร้างบ้าน นั้น ทางสมาคมฯ เห็นด้วย ให้ระบุในสัญญาให้เริ่มนับตั้งแต่ “วันที่เซ็นสัญญา” เพราะปัจจุบันก็ใช้ปฏิบัติอยู่แล้ว และเตือนลูกค้าที่กำลังจะปลูกสร้างบ้านอย่ามองเรื่องราคาต่ำเป็นสำคัญ เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาตามมา

ส่วนธุรกิจดูแลเด็กและคนชรา ร.ต. ไพโรจน์กล่าวว่า มีการร้องเรียนเข้ามามากเช่นกัน เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ที่ทางสคบ. เพิ่งเริ่มดำเนินการ คงจะเชิญผู้ประกอบการธุรกิจนี้มาพูดคุยกันในเร็วๆ นี้ โดยอาจจะ นำเรื่องว่าจ้างแม่บ้าน พ่วงเข้าเป็นสัญญาควบคุมด้วย