ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก
ฉบับที่ ๒๓ (พ.ศ. ๒๕๕๐)
เรื่อง ให้ชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก[๑]
โดย ที่ปรากฏว่าในปัจจุบันได้มีการนำสินค้าหลายชนิดมาบรรจุหรือห่อหุ้มรวมกัน เป็นสินค้าชุดสังฆทานหรือชุดไทยธรรมเพื่อขายให้นำไปถวายแด่นักบวชในพระพุทธ ศาสนา ซึ่งสินค้าบางชนิดที่นำมารวมนั้น มีกำหนดอายุหรือเวลาที่ควรใช้โดยผู้ซื้อไม่อาจทราบได้ และสินค้าดังกล่าวอาจทำปฏิกิริยากัน ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสี กลิ่น หรือรส จนอาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคเนื่องในการใช้ หรือโดยสภาพได้ ดังนั้น การกำหนดฉลากของสินค้าชุดสังฆทานหรือชุดไทยธรรมจะเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภค ในการที่จะทราบข้อเท็จจริงในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้า ลักษณะ ข้อความ และข้อความที่จำเป็นของฉลากสินค้านั้น จึงสมควรกำหนดให้ชุดสังฆทาน หรือชุดไทยธรรมเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๑ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๑ คณะกรรมการว่าด้วยฉลาก จึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ในประกาศนี้ “ชุดสังฆทาน หรือชุดไทยธรรม” หมายความว่า สินค้าที่นำมารวมเป็นชุด ไม่ว่าด้วยวิธีการใด เพื่อขายให้นำไปถวายแด่นักบวชในพระพุทธศาสนา
ข้อ ๒ ให้ชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก
ข้อ ๓ ให้ติดตั้งหรือแสดงฉลากของสินค้าที่ควบคุมตามข้อ ๒ ซึ่งต้องเป็นข้อความภาษาไทยที่สามารถเห็นและอ่านได้อย่างชัดเจน ตามตัวอย่างท้ายประกาศนี้ไว้ที่ภาชนะบรรจุหรือสิ่งที่นำมาห่อหุ้ม โดยให้ระบุข้อความดังต่อไปนี้ด้วย
(๑) คำว่า “ชุดสังฆทาน หรือชุดไทยธรรม”
(๒) รายการสินค้าที่ระบุขนาด มิติ ปริมาณ ปริมาตร น้ำหนัก จำนวน และราคาของสินค้า แต่ละรายการ
(๓) ชื่อและสถานที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายชุดสังฆทานหรือชุดไทยธรรม
(๔) วันเดือนปีที่หมดอายุ หรือวันเดือนปีที่ควรใช้ก่อน ของสินค้าใดสินค้าหนึ่งที่นำมารวมนั้นระบุว่าเร็วที่สุด
(๕) วันเดือนปีที่บรรจุ
(๖) ราคารวมชุดจัดบรรจุที่ระบุหน่วยเป็นบาท
ข้อ ๔ ชุดสังฆทานหรือชุดไทยธรรมใดที่มีการนำสินค้าที่อาจทำปฏิกิริยากันจนทำให้มี สี กลิ่น หรือรส เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคเนื่องในการใช้หรือโดยสภาพของสินค้านั้นได้ ให้ระบุคำเตือนในฉลากตามข้อ ๓ ด้วย เช่น ใบชา ข้าวสาร สบู่ และผงซักฟอก อาจทำปฏิกิริยากัน จนทำให้มีสี กลิ่น หรือรส เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค เนื่องในการใช้ หรือโดยสภาพของสินค้านั้นได้ ดังนั้น ผู้ใช้ควรแยกสินค้าที่อาจทำปฏิกิริยากันได้นั้นออกจากกันโดยเร็ว
ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๐
รัศมี วิศทเวทย์
ประธานกรรมการว่าด้วยฉลาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น