ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก
ฉบับที่ ๒๒ (พ.ศ. ๒๕๔๙)
เรื่อง ให้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการพยุงตัวเด็กเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก
โดย ที่ได้มีผลการวิจัยโดยแพทย์จากศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและ ป้องกันการบาดเจ็บในเด็กพบว่า ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการพยุงตัวเด็กที่มีลักษณะเป็นเบาะนั่งมีขอบแข็ง และมีล้อเลื่อน โดยมีการใช้งานด้วยวิธีให้เด็กนั่งอยู่ภายในเบาะ และใช้ขาช่วยในการเคลื่อนไหว เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ช่วยในการหัดเดินของเด็กแต่อย่างใด และยังอาจก่อให้เกิดอันตรายรุนแรง เช่น การพลัดตก หรือพลิกคว่ำ เป็นต้น จึงสมควรกำหนดให้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการพยุงตัวเด็กเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๑ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๑ อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งตามมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการว่าด้วยฉลาก จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ในประกาศนี้ “ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการพยุงตัวเด็ก” หมายความว่า ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการพยุงตัวเด็กที่มีลักษณะเป็นเบาะนั่งมีขอบแข็งและมีล้อเลื่อน โดยในส่วนที่นั่งมีการเจาะเป็นรูเพื่อให้ขาสอดลงไปได้
ข้อ ๒ ให้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการพยุงตัวเด็กเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก
ข้อ ๓ ฉลากของสินค้าที่ควบคุมฉลากตามข้อ ๒ ให้ปฏิบัติตามข้อ ๑ ถึงข้อ ๓ แห่งประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่อง ลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก พ.ศ. ๒๕๔๑ ลงวันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๑ โดยห้ามใช้ชื่อเรียกว่ารถหัดเดิน และให้ระบุข้อความ ดังต่อไปนี้
(๑) ให้มีข้อแนะนำในการใช้ โดยใช้ตัวอักษรขนาดไม่ต่ำกว่า ๒ มิลลิเมตร ระบุดังต่อไปนี้
(ก) การใช้ผลิตภัณฑ์นี้อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บจากการพลิกคว่ำหรือตกจากที่สูง โดยเฉพาะเมื่อใช้บนพื้นที่มีความต่างระดับ
(ข) ขณะที่ให้เด็กใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
(ค) ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์นี้บนพื้นต่างระดับ
(๒) คำเตือน ต้องระบุว่า “ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ช่วยในการหัดเดิน และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต”
ข้อความที่เป็นคำเตือน “ต้องใช้ตัวอักษรสีแดงขนาดไม่ต่ำกว่า ๕ มิลลิเมตร และแสดงไว้ที่ตัวสินค้าในลักษณะคงทนถาวร สามารถเห็นและอ่านได้อย่างชัดเจน”
ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป[๑]
ประกาศ ณ วันที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๙
รัศมี วิศทเวทย์
ประธานกรรมการว่าด้วยฉลาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น