ระเบียบคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
ว่าด้วย
หลักเกณฑ์การสนับสนุนและส่งเสริมการบริการดูแลระยะยาว
สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
พ.ศ. ๒๕๕๙
…………....................................................……………………….
โดยที่เป็นการสมควร
กำหนดหลักเกณฑ์การสนับสนุนและส่งเสริมการบริการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
ของกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ให้มีประสิทธิภาพและความเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่
อาศัยอำนาจตามความในข้อ
๑๑ (๒) แห่งประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์
เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่
พ.ศ.๒๕๕๗ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๙ คณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จึงมีมติในการประชุมครั้งที่ ……../๒๕๕๙ เมื่อวันที่ กันยายน ๒๕๕๙ ให้ออกระเบียบไว้ดังต่อไปนี้
หมวด ๑
บททั่วไป คำนิยาม
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า
“ระเบียบคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ว่าด้วยหลักเกณฑ์การสนับสนุนและส่งเสริมการบริการดูแลระยะยาว
สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง พ.ศ. ๒๕๕๙ ”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก รักษาการตามระเบียบนี้และให้มีอำนาจตีความหรือวินิจฉัยชี้ขาดการปฏิบัติตามระเบียบนี้
ข้อ ๔ ในระเบียบนี้
“ประกาศ” หมายความว่า
ประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง
การกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๙
“เทศบาล”
หมายความว่า เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
“นายกเทศมนตรี”
หมายความว่า นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก
“กองทุน” หมายความว่า
กองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
“กองทุนหลักประกันสุขภาพ”
หมายความว่า กองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ
การป้องกันโรค การฟื้นฟูสมรรถภาพ และการรักษาพยาบาลระดับปฐมภูมิเชิงรุก
ที่จำเป็นต่อสุขภาพและการดำรงชีวิต
“ระเบียบกองทุน” หมายความว่า
ระเบียบคณะกรรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก พ.ศ. ๒๕๕๘
“คณะกรรมการกองทุน” หมายความว่า
คณะกรรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
“คณะอนุกรรมการ” หมายความว่า
คณะอนุกรรมการสนับสนุนการจัดบริการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
“สถานบริการ” หมายความว่า
สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ ของเอกชน
และของสภากาชาดไทย หน่วยบริการการประกอบโรคศิลปะสาขาต่างๆ
และสถานบริการสาธารณสุขอื่นที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกำหนดเพิ่มเติม
“หน่วยบริการ” หมายความว่า สถานบริการที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๔๕
“ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชน” หมายความว่า
ศูนย์พัฒนาและฟื้นฟูคุณภาพชีวิต ผู้สูงอายุและคนพิการ หรือศูนย์ที่มีชื่ออย่างอื่น
ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
หรือที่คณะอนุกรรมการเห็นชอบ
“ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง” หมายความว่า ผู้สูงอายุหรือบุคคลอื่นๆ
ที่มีคะแนนประเมิน ความสามารถในการดำเนินชีวิตประจำวันตามดัชนีบาร์เธลเอดีแอล (Barthel
ADL index) เท่ากับหรือน้อยกว่า ๑๑ คะแนน ซึ่งแบ่งออกเป็น ๔ กลุ่ม
และมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขตามชุดสิทธิประโยชน์ ในเอกสารแนบท้ายประกาศ
“การบริการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง”
หมายความว่า การบริการตามชุดสิทธิประโยชน์ในเอกสารแนบท้าย
ที่เป็นการให้บริการ ณ ครัวเรือน หรือที่ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชน
หรือที่หน่วยบริการ หรือที่สถานบริการ ที่ให้บริการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุข
สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง โดยบุคลากรสาธารณสุขหรือผู้ช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
“การดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงด้านสังคม” หมายความว่า การดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย
ช่วยเหลือตนเองได้แต่ไม่มีคนดูแล
หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้และต้องการความช่วยเหลือจากเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
“ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
(Care giver)” หมายความว่า
บุคคลที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
หรือคณะอนุกรรมการอื่น ภายใต้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
เห็นชอบ
“คณะทำงาน” หมายความว่า คณะบุคคลที่คณะกรรมการกองทุนแต่งตั้งเพื่อช่วยเหลือการดำเนินงานของกองทุน
หมวด ๒
เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพเพื่อการดูแลผู้สูงอายุ
ข้อ ๕ เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพเพื่อการดูแลผู้สูงอายุ
มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนและส่งเสริมการบริการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
ตามชุดสิทธิประโยชน์และอัตราการชดเชยค่าบริการที่กำหนดในเอกสารแนบท้ายประกาศ ของศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชน
หรือหน่วยบริการ หรือสถานบริการ
ที่จัดบริการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง ตามที่คณะอนุกรรมการตามข้อ
๑๑ เห็นชอบ
ค่าใช้จ่ายตามวรรคหนึ่ง
ให้จ่ายเป็นค่าตอบแทนของบุคลากรที่เกี่ยวข้องตามอัตราที่หน่วยงานที่จัดบริการกำหนดได้
และรวมถึงจ่ายเป็นค่าตอบแทนของผู้ช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
ในอัตราที่แตกต่างกันได้ตามอัตราที่หน่วยงานที่จัดบริการกำหนด
หรือตามที่คณะอนุกรรรมการตามข้อ ๑๑ กำหนดหรือเห็นชอบ แต่ต้องไม่เกินค่าแรงขั้นต่ำที่รัฐบาลกำหนด
ข้อ ๖ ที่มาของเงิน
(๑) เป็นเงินเพิ่มจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ในส่วนค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
ตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกำหนด โดยเงินที่ได้รับ
ให้ถือว่าเป็นเงินหรือทรัพย์สินในกองทุนหลักประกันสุขภาพและให้สามารถใช้ในปีงบประมาณถัดๆไปได้
(๒) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะได้รับเงินตาม
(๑) ต้องมีความพร้อม เหมาะสม
และได้แสดงเจตนาเข้าร่วมดำเนินงานดูแลผู้สูงอายุและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเห็นชอบ
(๓) ภายใต้บังคับข้อ ๕ กรณีเงินเพิ่มตาม (๑)
ไม่เพียงพอให้สามารถนำเงินจากบัญชีกองทุนหลักประกันสุขภาพ ไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนและส่งเสริมการจัดบริการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุข
สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงได้
ทั้งนี้ กรณีที่ใช้เงินกองทุนตาม (๑) และ (๓)
ให้คณะอนุกรรมการรายงานให้คณะกรรมการกองทุนทราบ
ข้อ ๗ การรับเงิน
(๑)
บรรดาเงินรายรับของกองทุนเพื่อการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
ให้นำส่งเข้าบัญชีกองทุนที่เปิดไว้ตามข้อ ๘
(๒) วิธีการรับเงิน การนำฝากเงิน
ให้เป็นไปตามระเบียบกองทุน ข้อ ๑๙ และข้อ ๒๐
ข้อ ๘ การเก็บรักษาเงิน
(๑) ให้คณะกรรมการกองทุน เปิดบัญชีเงินฝากของกองทุน
(ย่อย) กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาสุไหงโกลก
ประเภทบัญชี “ออมทรัพย์” บัญชี ชื่อ “บัญชีกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองสุไหงโกลก
เพื่อการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง”
แยกออกจากบัญชีกองทุน (หลัก) ต่างหาก
(๒) การเปิดบัญชีเงินฝากและเงื่อนไขการสั่งจ่ายเงินจากบัญชี
ตาม (๑) ให้คณะกรรมการกองทุน มอบหมายบุคคลที่เป็นผู้เปิดบัญชีและสั่งจ่ายเงินจากบัญชีกองทุน
(หลัก) ตามระเบียบกองทุนข้อ ๒๑
เป็นผู้เปิดบัญชีกองทุน (ย่อย) นี้อีก ๑ บัญชี
ข้อ ๙
การสั่งจ่ายเงิน
(๑)
ให้นายกเทศมนตรีสั่งจ่ายเงินกองทุน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามข้อ ๕ ภายใต้ข้อเสนอการจัดบริการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
และแผนการดูแล (Care
Plan) รายบุคลของหน่วยบริการ สถานบริการ
หรือศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชน ที่คณะอนุกรรมการเห็นชอบ
(๒) หลักเกณฑ์การจ่ายเงิน
ให้เป็นไปตามระเบียบกองทุนข้อ ๒๕ (๑) และข้อ ๒๖
ข้อ ๑๐ การบันทึกบัญชีและการรายงานการเงิน ให้เป็นไปตามระเบียบกองทุนข้อ ๒๗ และข้อ ๒๘
หมวด ๓
คณะอนุกรรมการสนับสนุนการจัดบริการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
ข้อ ๑๑ ให้คณะกรรมการกองทุน แต่งตั้งคณะอนุกรรมการสนับสนุนการจัดบริการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
โดยมีองค์ประกอบ ดังต่อไปนี้
(๑)
ผู้บริหารสูงสุดขององค์กรปกครองท้องถิ่นหรือ ประธานอนุกรรมการ
ผู้บริหารอื่นที่ได้รับมอบหมาย
(๒) ผู้แทนกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพ (๒ คน) อนุกรรมการ
(๓) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลของรัฐในพื้นที่หรือผู้แทน
(๑ คน) อนุกรรมการ
(๔) สาธารณสุขอำเภอในพื้นที่หรือผู้แทน (๑ คน) อนุกรรมการ
(๕)
หัวหน้า/ผู้แทนหน่วยบริการปฐมภูมิของรัฐในพื้นที่ (๑ คน) อนุกรรมการ
(๖) ผู้จัดการระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุข (๑
คน) อนุกรรมการ
(๗)
ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึงพิงในพื้นที่ (๑ คน) อนุกรรมการ
(๘) ประธานศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชน
(๑ คน ) อนุกรรมการ (๙ ) ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม หรือ
ผู้รับผิดชอบงานผู้สูงอายุ อนุกรรมการ
(๑๐)
ปลัดองค์กรปกครองท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่อื่น
ที่ได้รับมอบหมาย
(๑ คน) อนุกรรมการและเลขานุการ
(๑๑) หัวหน้าศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
อนุกรรมการและผู้ช่วยเลขา ฯ
ข้อ ๑๒ ให้เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จัดประชุมคณะอนุกรรมการกองทุนตามความจำเป็นและเหมาะสม อย่างน้อยปีละ ๒ ครั้ง โดยการประชุมแต่ละครั้ง
(๑) มีอนุกรรมการมาประชุมไม่กว่าน้อยกึ่งหนึ่ง
(๒)
จัดให้มีระเบียบวาระการประชุม
(๓) จัดทำรายงานการประชุม
โดยอนุกรรมการและเลขานุการ เป็นผู้ลงนามและรับผิดชอบความถูกต้อง
สมบูรณ์ครบถ้วนของรายงาน
(๔) ให้รายงานสถานการณ์ของเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพเพื่อการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
ให้ที่ประชุมทราบ
(๕ )
ให้คณะอนุกรรมการสนับสนุนการจัดบริการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
และคณะทำงาน มีสิทธิ์รับค่าตอบแทนได้โดยไม่เกินอัตราที่สปสช.กำหนด
ข้อ ๑๓ หน้าที่ของคณะอนุกรรมการ
(๑) พิจารณาจัดหา และกำหนดกรอบอัตราการชดเชยค่าบริการ
สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
(๒) เห็นชอบให้ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชน
หรือหน่วยบริการ หรือสถานบริการ เข้าร่วมจัดบริการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
เพื่อให้ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงได้รับบริการตามชุดสิทธิประโยชน์ที่กำหนดในเอกสารแนบท้ายประกาศ
(๓) ประสานงานกับเทศบาลในการจัดระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
โดยบูรณาการกับการบริการดูแลช่วยเหลือทางด้านสังคม
(๔) กำกับ ติดตาม ประเมินผล
และแก้ไขปัญหาที่จะเป็นอุปสรรคต่อการจัดบริการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงตามแผนการดูแลด้านสาธารณสุข
(Care
Plan) และด้านสังคม (Socail Care Plan) ของหน่วยบริการ
หรือสถานบริการ หรือศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชน หรือเทศบาล
(๕) รายงานผลการกำกับ ติดตาม
ประเมินผล รวมทั้งปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานให้แก่คณะกรรมการกองทุนทราบ
(๖) อื่นๆตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการกองทุน
หมวด ๔
การสนับสนุนและส่งเสริมบริการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
ข้อ ๑๔ หลักเกณฑ์การเข้าร่วมจัดบริการดูแลระยะยาวผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
ของหน่วยบริการ สถานบริการ หรือศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชน ตามข้อ ๕
(๑) ต้องจัดให้มีผู้จัดการระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุข
(Care Manager) ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
หรือคณะอนุกรรมการอื่นภายใต้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
หรือสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกำหนด ทำหน้าที่
(๑.๑) เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการจัดบริการ
ประสานให้ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงได้รับบริการด้านสาธารณสุขตามชุดสิทธิประโยชน์
(๑.๒) ประเมินและวางแผนการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุข
(Care
Plan) ให้กับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงแต่ละกลุ่มก่อนให้บริการ
การประเมิน การวางแผนการดูแลและการกำหนดอัตราค่าตอบแทนการดูแล
ให้เป็นไปตามไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในเอกสารแนบท้าย
(๑.๓) ประเมินผลการดูแลและปรับแผนการให้บริการ
ร่วมกับบุคลากรสาธารณสุขของหน่วยงาน
(๒) จัดให้มีผู้ช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
(Care
Giver) ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรที่คณะบุคคล
หรือสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติตาม (๑) กำหนด หรือมีเครือข่ายสุขภาพอื่นๆหรืออาสาสมัคร
จิตอาสา ทำหน้าที่
(๒.๑) บริการดูแลที่บ้าน/ชุมชนและให้คำแนะนำแก่ญาติและผู้ดูแล
ในการบริการสาธารณสุขเบื้องต้น ทั้งด้านการพยาบาล การฟื้นฟูสภาพ การทำกายภาพบำบัด
การดูแลด้านยา ด้านโภชนาการ รวมถึงการวัดสัญญาณชีพ การตรวจคัดกรองสุขภาพ
ตรวจน้ำตาลในเลือด การปฐมพยาบาลการช่วยฟื้นคืนชีพ เป็นต้น
(๒.๒) ดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน อาทิ การดูแลทำความสะอาดร่างกาย
การดูแลเรื่องการกินยา ดูแลเรื่องการกินอาหาร
(๒.๓) จัดการสภาพแวดล้อม/บ้าน
เพื่อการฟื้นฟูสภาพ ป้องกันอุบัติเหตุ ให้เหมาะสมกับสภาพผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงแต่ละกลุ่ม
ทั้งนี้ อัตราส่วน Care Manager :
Care Giver : ผู้สูงอายุ ๑ : ๕-๑๐ : ๓๕-๔๐
(๓) จัดให้มีบุคลากรสาธารณสุข
(ทีมหมอครอบครัว) ทำหน้าที่ในการดูแลด้านการพยาบาล ด้านการฟื้นฟูสภาพร่างกาย
ด้านโภชนาการ ด้านเภสัชกรรมและด้านอื่นๆตามความจำเป็น อาทิ สุขภาพช่องปาก
สุขภาพจิต
(๔) บูรณาการการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขและด้านสังคมกับเทศบาล
ในการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์เครื่องช่วยที่จำเป็นตามสภาพผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงตามข้อ
๒๒
(๕) มีการติดตามประเมินผลการจัดบริการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงตามแผนการดูแล
(Care
Plan) โดยผู้จัดการดูแลระบบ (Care Manager)
ร่วมกับผู้ช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง (Care Giver) และรายงานผลต่อคณะอนุกรรมการ
ข้อ ๑๕ หลักเกณฑ์และขั้นตอนการสนับสนุนและส่งเสริมการบริการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
ตามชุดสิทธิประโยชน์และอัตราการชดเชยค่าบริการที่กำหนดในเอกสารแนบท้ายประกาศ
(๑) ให้หน่วยบริการ สถานบริการ
หรือศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชน สำรวจข้อมูลผู้สูงอายุในพื้นที่รับผิดชอบ
ณ กรกฎาคม ของทุกปี โดยใช้แบบประเมินความสามารถในการดำรงชีวิตประจำวันตามดัชนีบาร์เธลเอดีแอล
และสรุปจำนวนผู้สูงอายุที่มีคะแนนประเมินเท่ากับหรือน้อยกว่า ๑๑ จำนวน ๔
กลุ่มตามความต้องการบริการด้านสาธารณสุข ตามแบบ LTC ๑ และจัดส่งให้เทศบาลปีละ
๑ ครั้ง เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการวางแผนดำเนินงาน
(๒) ให้ผู้จัดการระบบการดูแล (Care Manager)
ของหน่วยบริการ สถานบริการ หรือศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชน ประเมินและวางแผนการดูแล
(Care Plan) ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงตาม (๑) รายบุคคล ตามแบบ
LTC ๒
(๓) ให้หัวหน้าหน่วยบริการ สถานบริการ
หรือศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชน จัดทำข้อเสนอการจัดบริการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุน
ตามแบบ LTC
๓ พร้อมแนบแผนการดูแล (Care Plan) LTC ๒ เสนอต่อประธานอนุกรรมการภายในเดือนสิงหาคมของทุกปี
(๔) หลังจากได้รับข้อเสนอตาม
(๓) ให้คณะทำงานดำเนินการดังนี้
(๔.๑) สรุปรายละเอียดข้อเสนอการจัดบริการ
ของหน่วยบริการ สถานบริการ และศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชน ลงในแบบ LTC ๔
(๔.๒) จัดประชุมคณะอนุกรรมการ เพื่อพิจารณาข้อเสนอการจัดบริการ
หากที่ประชุมมีมติ
-เห็นชอบ ใช้แบบสรุปรายละเอียดข้อเสนอและผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการสนับสนุนการจัดบริการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
ของหน่วยบริการ สถานบริการ และศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชน LTC ๔ เพื่อเป็นหลักฐานในการสั่งจ่ายเงินกองทุนสนับสนุนของนายกเทศมนตรี
-ไม่เห็นชอบ ให้แจ้งหัวหน้าหน่วยงานที่จัดทำข้อเสนอการจัดบริการทราบ
พร้อมด้วยเหตุผล หากเป็นข้อเสนอที่สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ให้เสนอแนะเพื่อปรับปรุงแก้ไขและนำส่งใหม่ภายในเวลาที่กำหนด
(๕) เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ดำเนินการเบิกจ่ายเงินกองทุน ให้หน่วยบริการ
สถานบริการ หรือศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชน ที่คณะอนุกรรมการได้ให้ความเห็นชอบข้อเสนอการจัดบริการ
ภายใน ๑๕ วันทำการนับแต่วันที่ประชุมมีมติ
หมวด ๕
วิธีการสนับสนุนเงินกองทุน
ข้อ ๑๖ การสนับสนุนเงินกองทุน
ให้กับหน่วยบริการ สถานบริการ หรือศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตในชุมชน ที่คณะอนุกรรมการได้ให้ความเห็นชอบข้อเสนอการจัดบริการ
ให้ใช้วิธีสั่งจ่ายเช็คเข้าบัญชีทั่วไปของหน่วยงาน หรือบัญชีเงินฝากที่หน่วยงานได้เปิดรองรับเงินกองทุน
(หลัก) ไว้ตามระเบียบกองทุน
การใช้จ่ายเงินที่ได้รับการสนับสนุนตามวรรคหนึ่ง
ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบของหน่วยงานนั้นๆ โดยอนุโลม หากมีเงินเหลือจ่ายจากการจัดบริการตามข้อเสนอให้ส่งคืนกองทุน
ข้อ ๑๗
ก่อนเบิกจ่ายเงินสนับสนุน ให้จัดทำบันทึกข้อตกลงการจัดระบบบริการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
ระหว่างเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกกับหน่วยบริการ สถานบริการ
หรือศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตในชุมชน ตามแบบ LTC ๕
ข้อ ๑๘
ในการเบิกจ่ายเงินสนับสนุนตามข้อ ๑๖ ให้มีหลักฐานประกอบด้วย
(๑) แบบข้อเสนอการจัดบริการ LTC ๓
(๒) แบบสรุปรายละเอียดข้อเสนอและผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ
LTC
๔
(๓) แบบบันทึกข้อตกลงการจัดบริการ
LTC ๕
(๔)
สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากตามข้อ ๑๖ เพื่อเป็นหลักฐานในการสั่งจ่ายเช็คเข้าบัญชี
(กรณีสนับสนุนครั้งแรก) และ
(๕)
แบบใบเบิกเงินตามระเบียบกองทุน (กท. ๑๑)
ข้อ ๑๙ ในการเบิกจ่ายเงินจากบัญชีเงินฝากของหน่วยงาน
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนการดูแล (Care Plan) ให้หัวหน้าหน่วยงานเป็นผู้อนุมัติเบิกตามรายการและค่าใช้จ่ายที่คณะอนุกรรมการเห็นชอบตามแบบอนุมัติเบิกเงินจากบัญชี
(กท.๙) และเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ข้อ ๒๐ ภายใน
๓๐ วันหลังเสร็จสิ้นการดำเนินงานตามข้อเสนอ ให้หัวหน้าหน่วยงาน
รายงานผลการดำเนินงานต่อประธานอนุกรรมการ ตามแบบ LTC ๖ พร้อมด้วยสำเนาเอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้
ส่วนต้นฉบับให้เก็บไว้ที่หน่วยงานเพื่อการตรวจสอบ
(๑) หลักฐานการใช้จ่ายเงิน
เช่น ใบเสร็จรับเงิน หรือใบสำคัญรับเงิน
(๒) เอกสารอื่นๆ
ที่เป็นสาระสำคัญของการดำเนินงาน รวมทั้งภาพถ่ายกิจกรรม
(๓) เงินเหลือจ่าย
(ถ้ามี)
ข้อ ๒๑ กรณีการดูแลตามแผนต้องสิ้นสุดลงด้วยเหตุใดก็ตาม
และมีเงินเหลือจ่ายหากหน่วยงานมีความจำเป็นต้องใช้ที่เงินเหลือจ่ายนั้นเพื่อการดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่ต่อไป
ให้ดำเนินการดังนี้
(๑) ให้หน่วยงานจัดทำแผนการดูแลและข้อเสนอการจัดบริการ
ตามข้อ ๑๕ (๒) (๓) ส่งให้กองทุนเพิ่มเติม ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในเอกสารแนบท้ายและตามวงเงินที่เหลืออยู่
โดยภายหลังจัดส่ง หน่วยงานสามารถให้บริการตามแผนได้ทันที
(๒) ให้คณะทำงานเสนอ (๑)
ต่อคณะอนุกรรมการในการประชุมครั้งต่อไป เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ เงื่อนไขการเห็นชอบกำหนดให้มีผลย้อนหลังนับแต่วันที่จัดส่ง
(๑) ให้กองทุน
ข้อ ๒๒ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการจัดบริการ
(๑) ให้หน่วยงานประเมินกระบวนการจัดบริการของหน่วยงานตามแบบ LTC ๗ และรายงานผลการประเมินมาพร้อมกับรายงานตามข้อ ๒๐
(๑) ให้หน่วยงานประเมินกระบวนการจัดบริการของหน่วยงานตามแบบ LTC ๗ และรายงานผลการประเมินมาพร้อมกับรายงานตามข้อ ๒๐
(๒)
ให้คณะอนุกรรมการประเมินความพึงใจของผู้รับบริการ/ผู้มีส่วนได้เสียต่อการจัดบริการของหน่วยงาน
ตามแบบ
LTC ๘ ปีละ ๑ ครั้ง ณ เดือนกรกฎาคม ของทุกปี
(๓) ให้คณะทำงานสรุปผลการดำเนินงานตามข้อ
๒๐ และข้อ ๒๒ รายงานต่อคณะอนุกรรมการและคณะกรรมการกองทุน เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงระบบการจัดบริการให้มีประสิทธิภาพและสนองตอบต่อความต้องการของผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้เสีย
หมวด ๖
การสนับสนุนและส่งเสริมการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงด้านสังคม
ข้อ ๒๓ เพื่อให้การดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
มีประสิทธิภาพ และเกิดการบูรณาการกับการดูแลช่วยเหลือทางด้านสังคม ให้เทศบาลโดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม
รับผิดชอบร่วมกับหน่วยบริการ สถานบริการ หรือศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชนในการดำเนินการดังนี้
(๑) สำรวจข้อมูลผู้สูงอายุหรือบุคคลอื่นที่มีภาวะพึ่งพิงด้านสังคม
ตามแบบ LTC
๙ ส่งให้คณะอนุกรรมการปีละ ๑ ครั้ง ภายในเดือนสิงหาคมของทุกปี
โดยการสำรวจแบ่งออกเป็น ๓ กลุ่ม
กลุ่ม ก คือ ผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้
ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และเทศบาล ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือแล้ว
กลุ่ม ข คือ
ผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย ไม่มีคนดูแล แต่ยังสามารถช่วยเหลือตนเองได้
รอเทศบาลเข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือ
กลุ่ม ค คือ
ผู้สูงอายุที่ได้รับการช่วยเหลือเสร็จสิ้นแล้ว มีอาการดีขึ้น
สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ย้ายที่อยู่อาศัย หรือเสียชีวิต
(๒) จัดทำแผนการดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงด้านสังคม
รายบุคคล กลุ่ม ก และกลุ่ม ข ตามแบบ LTC ๙/๑
(๓) ดำเนินการดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุตามแผน
(๒) รายบุคคล ตามวิธีการช่วยเหลือ ในแต่ละสภาพปัญหา
โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
(๔) รายงานสรุปผลการการดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงด้านสังคมต่อคณะอนุกรรมการภายใน
๓๐ วันหลังสิ้นปีงบประมาณ
ข้อ ๒๔ ให้ทรัพย์สินของกองทุน ตามระเบียบกองทุนข้อ
๔๖ (๑) (ข) (๓) (๔) (๕) ประเภทอุปกรณ์ทางการแพทย์ และอุปกรณ์เครื่องช่วยอื่นๆ
ที่ได้รับตามโครงการรับบริจาคและให้ยืมอุปกรณ์การแพทย์ของกองทุน เป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงด้านสาธารณสุขและด้านสังคมตามข้อ
๒๓ (๓)
ข้อ ๒๕ กรณีทรัพย์สินของกองทุนตามข้อ ๒๔
ไม่เพียงพอต่อการให้การดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง ให้หน่วยงานตามข้อ
๒๓ และกองทุนดำเนินการจัดหาให้เพียงพอ โดยประสานขอรับการสนับสนุนจากกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพจังหวัดนราธิวาส องค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส หรือโดยวิธีอื่นตามความเหมาะสม
ข้อ ๒๖ ให้คณะทำงาน รายงานสรุปสถานะทรัพย์สินของกองทุนตามข้อ ๒๔ ตามแบบ
กท. ๑๖/๑ ต่อคณะกรรมการกองทุนและคณะอนุกรรมการปีละ ๑ ครั้ง ทุกสิ้นปีงบประมาณ
หมวด ๗
ค่าตอบแทน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ข้อ ๒๗ การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมคณะอนุกรรมการ
และค่าตอบแทนคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน ให้เป็นไปตามระเบียบกองทุนข้อ ๔๐ (๒) (๒.๒)
และ (๒.๓)
ข้อ ๒๘
ภายใต้บังคับข้อ ๕ และข้อ ๑๕ การจ่ายค่าตอบแทนบุคลากรที่เกี่ยวข้องและค่าตอบแทนผู้ช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
(Care
Giver) ในการให้บริการตามแผนการดูแล (Care Plan) ให้คณะอนุกรรมการกำหนดอัตราการชดเชยค่าบริการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดตามเอกสารแนบท้าย
ภายใต้เงื่อนไขดังนี้
(๑) ค่าตอบแทนบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ให้เบิกจ่ายได้เฉพาะกรณีออกปฏิบัติงานเชิงรุกในชุมชน
ช่วงนอกเวลาในวันราชการปกติหรือในวันหยุดราชการเท่านั้น อัตรา
-วันราชการปกติ
เบิกจ่ายได้วันละไม่เกิน ๒ ชั่วโมง อัตราชั่วโมงละ ๕๐ บาท
-วันหยุดราชการ
เบิกจ่ายได้วันละไม่เกิน ๖ ชั่วโมง อัตราชั่วโมงละ ๖๐ บาท
(๒)
ค่าตอบแทนผู้ช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง (Care Giver) ให้เบิกจ่ายได้เฉพาะกรณีมีการออกให้บริการดูแลที่บ้าน/ชุมชนจริงโดย
-จำนวนผู้สูงอายุที่ดูแลตามแผนการดูแลวันหนึ่งต้องไม่เกิน ๖ คน
-ค่าตอบแทนที่ได้รับต้องไม่เกินค่าแรงขั้นต่ำที่รัฐบาลกำหนด
ณ ขณะนั้น
ข้อ ๒๘ ในการดำเนินงานดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
หากไม่มีหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือแนวปฏิบัติกำหนดไว้ในระเบียบนี้ ให้เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการกองทุน
หรือคณะอนุกรรมการแล้วแต่กรณี
ประกาศ ณ วันที่
กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
(นางสุชาดา พันธ์นรา)
ประธานกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพ
เทศบาลเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น