วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้น้ำบาดาล

ภารกิจที่ถ่ายโอนไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

1.การขุดเจาะน้ำบาดาล

2.การพัฒนาเป่าล้างบ่อน้ำบาดาลเดิม

3.การซ่อมบำรุงรักษาเครื่องสูบน้ำแบบบ่อลึก

4.การเรียกเก็บค่าใช้น้ำบาดาล

5.การอนุญาตการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางตอนบนสุดน้อยกว่า 4 นิ้ว และมอบอำนาจการอนุญาตใช้น้ำบาดาลที่อนุญาตใช้ไม่เกินวันละ 10 ลูกบาศก์เมตร

ภารกิจเรียกเก็บค่าใช้น้ำบาดาล

** การใช้น้ำบาดาลอย่างอนุรักษ์นั้นจะใช้การเก็บค่าใช้น้ำบาดาลเป็นเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ เพื่อใช้สร้างจิตสำนึกให้กับ ผู้ใช้น้ำบาดาลได้ตระหนักในคุณค่าของทรัพยากรน้ำบาดาล

หน้าที่ของผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาล

ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลต้องชำระค่าใช้น้ำบาดาลและ ค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง

-ตาม พ.ร.บ.น้ำบาดาล พ.ศ. 2520 มาตรา 25/1 และ

-กฎกระทรวง ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2540) แก้ไขเพิ่มเติมโดย กฎกระทรวง ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2543)

1.การแต่งตั้งผู้รับผิดชอบ

กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จะต้องดำเนินการ

1.1 แต่งตั้งพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่

1.2 แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่

แต่งตั้งพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่

กรมทรัพยากรน้ำบาดาล แต่งตั้งนายกเทศมนตรีหรือนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเป็นพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ (ประกอบด้วยเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล)

-มีอำนาจหน้าที่ในการจัดเก็บค่าใช้น้ำบาดาล และค่าธรรมเนียมต่างๆ

-รวมทั้งมอบอำนาจให้ดำเนินการฟ้องร้องบังคับคดีผู้ประกอบกิจการ น้ำบาดาลที่ค้างชำระค่าใช้น้ำบาดาลตามพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520

2.วิธีและขั้นตอนการดำเนินการ

2.1 กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ส่งสำเนาใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการเรียกเก็บค่าใช้น้ำบาดาล

2.2 การคำนวณค่าใช้น้ำบาดาล

การคำนวณค่าใช้น้ำบาดาลให้คำนวณปริมาณน้ำบาดาลที่ใช้ ดังนี้

2.2.1 กรณีที่ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำ ให้ชำระชำระค่าใช้น้ำบาดาลที่วัดได้จากเครื่องวัดปริมาณน้ำนั้น

2.2.2 กรณีไม่อาจคำนวณปริมาณน้ำบาดาลได้จากเครื่องวัดปริมาณน้ำเพราะผู้รับใบอนุญาตไม่ได้ติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำหรือด้วยเหตุอื่นได ให้ชำระค่าใช้น้ำบาดาลตามปริมาณน้ำบาดาลสูงสุดที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต ใช้น้ำบาดาล โดยคำนวณตามวันที่ไม่อาจคำนวณน้ำบาดาลได้

ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2521) ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520

เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และมาตรการทางวิชาการสำหรับการใช้น้ำบาดาลแบบอนุรักษ์

ในกรณีที่ติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำ ให้ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลกรอกรายการในรายงานการใช้น้ำบาดาลตามแบบ นบ./11 แล้วส่งรายงานดังกล่าวให้พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป

บทกำหนดโทษ

กรณีผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลไม่ส่งรายงานตามแบบ นบ./11 มีความผิด ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท (มาตรา 37)

2.3 หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการเรียกเก็บค่าใช้น้ำบาดาล

-ให้ดำเนินการตามกฎกระทรวงฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2540) แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2543) ออกตามความในพระราชบัญญัติ น้ำบาดาล พ.ศ. 2520

-ระเบียบกรมทรัพยากรน้ำบาดาลว่าด้วยการจัดเก็บรายได้และการนำส่งรายได้ตามพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520

กำหนดให้มีการชำระค่าใช้น้ำบาดาล จำนวน 4 งวด

งวดที่ 1 ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนมีนาคม

งวดที่ 2 ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงเดือนมิถุนายน

งวดที่ 3 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึงเดือนกันยายน

งวดที่ 4 ตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงเดือนธันวาคม

ผู้ใช้น้ำบาดาลจะต้องชำระค่าใช้น้ำบาดาลในแต่ละงวดให้ครบถ้วนต่อพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ ภายใน 30 วัน นับแต่วันเริ่มงวดถัดไป

อัตราค่าใช้น้ำบาดาล

- ค่าใช้น้ำบาดาลอัตราลูกบาศก์เมตรละ 3.50 บาท

การเรียกเก็บค่าใช้น้ำบาดาล

ประเภท. 1 อุปโภคบริโภคท้องที่มีน้ำประปาใช้เก็บเต็ม (3.50บาท/ลบ.ม.) ท้องที่ไม่มีน้ำประปาใช้ยกเว้น

2.ธุรกิจ

-โรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่ใช้วัตถุดิบจากผลิตผลการเกษตรตามประเภทและชนิดที่รัฐมนตรีกำหนด ท้องที่มีน้ำประปาใช้ เก็บเต็ม(3.50บาท/ลบ.ม.) ท้องที่ไม่มีน้ำประปาใช้ลดหย่อนเก็บ 75% ของปริมาณน้ำ(2.625 บาท/ลบ.ม.)

-โรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบจากผลิตผลการเกษตรตามประเภทและชนิดที่รัฐมนตรีกำหนดท้องที่มีน้ำประปาใช้ เก็บเต็ม (3.50บาท/ลบ.ม.)ท้องที่ไม่มีน้ำประปาใช้ลดหย่อนเก็บ 30% ของปริมาณน้ำ(1.05 บาท/ลบ.ม.)

3.เกษตรกรรม

-การเพาะปลูกท้องที่มีน้ำประปาใช้เก็บเต็ม (3.50บาท/ลบ.ม.)ท้องที่ไม่มีน้ำประปาใช้ยกเว้น

-การเลี้ยงสัตว์ที่ใช้น้ำบาดาลไม่เกินวันละ 50 ลบ.ม.ท้องที่มีน้ำประปาใช้เก็บเต็ม(3.50บาท/ลบ.ม.)ท้องที่ไม่มีน้ำประปาใช้ยกเว้น

การเลี้ยงสัตว์ส่วนที่ใช้น้ำบาดาลเกินวันละ 50 ลบ.ม.(เก็บเฉพาะส่วนที่เกิน)ท้องที่มีน้ำประปาใช้เก็บเต็ม(3.50บาท/ลบ.ม.)ท้องที่ไม่มีน้ำประปาใช้ลดหย่อนเฉพาะส่วนที่เกินวันละ 50 ลบ.ม.แล้วเก็บเพียง 30 % ของปริมาณน้ำ (1.05 บาท/ลบ.ม.)

ประเภทการใช้น้ำบาดาล

1.อุปโภคบริโภค

1.1.บ้านอยู่อาศัย

1.2.โรงพยาบาลของรัฐ สถานที่ราชการ สถาบันการศึกษา และศาสนสถาน

1.3.อาคารชุด แฟลต อพาร์ตเมนต์ หอพัก บ้านเช่า หมู่บ้านจัดสรร ที่ดินจัดสรรเพื่ออยู่อาศัย/สวนเกษตร

1.4.ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำประปาขององค์การของรัฐหรือ อปท.

2.ธุรกิจ แบ่งเป็น

2.1 ธุรกิจ(อุตสาหกรรม)

-การใช้น้ำในโรงงานอุตสาหกรรม เช่น โรงงานผลิตเบียร์ สุรา ห้องเย็น เหล็กเส้น อาหารกระป๋อง

2.2 ธุรกิจ(บริการ)

-การใช้น้ำบาดาลเพื่อบริการลูกค้า เช่นโรงแรม โรงภาพยนตร์ ศูนย์การค้า ตลาด ร้านอาหาร สถานีบริการน้ำมัน อาคารพาณิชย์ สนามกีฬา สนามกอล์ฟ สวนสนุก สวนสัตว์ สำนักงาน โรงพยาบาลเอกชน

2.3 ธุรกิจ(การค้า)

-การใช้น้ำบาดาลเป็นวัตถุดิบในการผลิต เช่น น้ำดื่ม น้ำแร่ น้ำอัดลม โซดา น้ำแข็ง เครื่องดื่มชูกำลัง

3.เกษตรกรรม

ได้แก่การใช้น้ำบาดาลเพื่อ

-การเพาะปลูก

-การเลี้ยงสัตว์

ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดประเภทและชนิดของโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบจากผลิตผลการเกษตร

1. โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับผักหรือผลไม้อย่างไดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง

2. โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับเมล็ดพืชหรือหัวพืชอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง

3. โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับน้ำตาล ซึ่งทำจากอ้อย หญ้าหวาน หรือพืชอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง

4. โรงงานประกอบกิจการที่เกี่ยวกับสัตว์หรืออาหารสัตว์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง

5. โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับนม อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง

6. โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับน้ำมันจากพืช หรือสัตว์ หรือไขมันจากสัตว์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง

7. โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับการผลิตเยื่อหรือกระดาษ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง

8. โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับสิ่งทอ ด้าย หรือเส้นใยธรรมชาติเป็นส่วนประกอบ

9. โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับเครื่องปรุงหรือเครื่องประกอบอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง

10. โรงงานประกอบเกี่ยวกับยาง อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง

11. โรงงานประกอบกิจการที่เกี่ยวกับการบ่มใบชา หรือใบยาสูบ

12. โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวผลิตผลเกษตรกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง

13. โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับชา กาแฟ โกโก้ ช็อกโกแลต หรือขนมหวานอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง

14. โรงงานผลิตภาชนะบรรจุหรือเครื่องใช้จากไม้ไผ่ หวาย ฟาง อ้อ กก หรือผักตบชวา

2.4 ลำดับขั้นตอนการปฏิบัติ

1. ให้พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ แจ้งให้ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลชำระค่าใช้น้ำบาดาล โดยทำเป็นหนังสือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับภายใน 15 วัน นับแต่วันเริ่มงวดถัดไป พร้อมทั้งแจ้งผลการไม่ปฏิบัติตามด้วย

2. ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลนำใบแจ้งหนี้ไปติดต่อชำระเงินค่าใช้ น้ำบาดาลต่อพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันเริ่มงวดถัดไป

3. พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ รับชำระค่าใช้น้ำบาดาลและ ออกใบเสร็จรับเงิน

4. พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่นำเงินค่าใช้น้ำบาดาลเข้าบัญชีกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล และคลังจังหวัด ตามข้อกำหนดของกระทรวง (กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะทำความตกลงกับคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกระทรวงการคลัง)

5. ในกรณีผู้รับใบอนุญาตไม่ชำระค่าใช้น้ำบาดาลตามระยะเวลาที่กำหนดให้พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ รวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานอัยการพิจารณาฟ้องคดีต่อศาลเพื่อบังคับให้ชำระหนี้ค่าใช้น้ำบาดาล โดยให้ดำเนินการตามระเบียบกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ว่าด้วย การจัดเก็บรายได้ และการนำส่งรายได้ ตามพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520 และรายงานผลการดำเนินคดีให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลทราบทุกระยะ

6. พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ รายงานสรุปผลการจักเก็บรายได้ทุกเดือนให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลทราบ

สารบรรณภารกิจถ่ายโอน

ภารกิจที่หน่วยการปกครองส่วนกลางและส่วนภูมิภาคถ่ายโอนให้เทศบาล

๑.การจดทะเบียนพาณิชย์

๒.การขออนุญาตตั้งโรงงาน

๓.การขออนุญาตตั้งสถานจำหน่วยน้ำมันเชื้อเพลิง

๔.การคุ้มครองผู้บริโภค

๕.การจัดเก็บค่าธรรมเนียมใช้น้ำบาดาล

๖.สถานีขนส่งผู้โดยสาร

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เรื่องเล่าชาวท้องถิ่น

๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔

"สตง."ท้วงปลัด"มหาดไทย"ร่างระเบียบจ่าย"เงินบำรุง"เกินอำนาจแนะ2ทางเลือก-ย้ำไม่ฟังเดินหน้าทวง -
มติชน Issued date 1 February 2011
นาย พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน รักษาราชการแทน ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินกล่าวว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไม่เห็นด้วยกับกระทรวงมหาดไทย ในการจัดทำร่างระเบียบจ่ายเงินบำรุงสมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นการดำเนินการไม่เหมาะสม และเกินอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เบื้องต้น สตง.ได้ทำหนังสือท้วงติงการดำเนินการดังกล่าวถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยอย่าง เป็นทางการ โดยระบุชัดเจนว่า หากกระทรวงมหาดไทยยืนยันจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อ ควรต้องทำเรื่องหารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ชัดเจนว่า สามารถทำได้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้คณะกรรมการกฤษฎีกาเคยมีความเห็นมาแล้วว่าการออกร่างระเบียบ เกินอำนาจของกฎหมาย
"สตง.ไม่เข้าร่วมในคณะกรรมการจัดทำร่าง ระเบียบดังกล่าว เพราะรู้เหตุผลและความต้องการจึงไม่เข้าร่วมด้วย เมื่อจัดทำร่างเสร็จ รายละเอียดในร่างเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ในฐานะหน่วยงานตรวจสอบด้านการเงินของแผ่นดิน จึงไม่เห็นด้วยอย่างมากกระทรวงมหาดไทยควรทบทวนเรื่องนี้ หากกระทรวงมหาดไทยยังยืนยันดำเนินการต่อ ควรหาแนวทางที่เหมาะสมกว่า มี 2 ทางเลือก คือ 1.เสนอแก้ไขกฎหมายเพื่อกำหนดกติกาที่ชัดเจนว่า การจ่ายเงินดังกล่าวเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ไม่ควรเป็นร่างระเบียบเพราะร่างระเบียบอยู่ภายใต้กฎหมาย หากไม่แก้กฎหมาย ออกร่างระเบียบแล้ว ก็ไม่สามารถปฏิบัติได้รวมทั้งอาจเป็นบรรทัดฐานให้หน่วยงานอื่นๆ ทำตามและ 2.ควรระดมเงินบริจาคจากนายกเทศมนตรี ที่มีเงินตอบแทนสูง" นายพิศิษฐ์กล่าว และว่า สตง.ตรวจพบการนำงบฯไปจ่าย ส.ท.ท.มาหลายปี รวมวงเงินจำนวนมาก ถือเป็นเรื่องผิดระเบียบ หากกระทรวงมหาดไทยยังดึงดันทำต่อ สตง.จะเข้าไปตรวจสอบอย่างเป็นทางการ หากพบการกระทำความผิด ต้องเรียกเงินกลับคืนทั้งที่เบิกจ่ายปัจจุบัน และย้อนหลังในอดีตทั้งหมด
"สำหรับ การเรียกเงินคืนย้อนหลังที่ อปท.กังวลนั้นสตง.มุ่งแก้ปัญหา ซึ่งการจ่ายเงินของ อปท.ทำไปตามหนังสือสั่งการ และก่อนการหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา ถือว่า อปท.อาจดำเนินการโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่เมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยแล้วถือว่าต้องเข้าใจตรงกันแล้วว่าต้อง ดำเนินการไม่เกินอำนาจตามกฎหมาย"

วุฒิสภาผ่านกม. บัตรปชช.แต่เกิด -
ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
รัฐสภา - วุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายทำบัตรประชาชนตั้งแต่เด็กแรกเกิด ส.ว.เกรงข้อมูลไม่ครบ เพราะต้องแยกแยะหน้าตา ลายนิ้วมือ
ใน การประชุมวุฒิสภา ที่มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมเมื่อวันที่ 31 มกราคมนี้ ที่รัฐสภา ที่ประชุมได้ลงมติรับร่าง พ.ร.บ.บัตรประชาชน พ.ศ. ... ที่สภาผู้แทนราษฎรผ่านความเห็นชอบแล้ว ด้วยคะแนนเสียง 83 ต่อ 3 งดออกเสียง 5 เสียง พร้อมให้คณะกรรมาธิการปกครอง วุฒิสภา พิจารณา กำหนดแปรญัตติภายใน 3 วัน
ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่างกฎหมาย คือ แก้ไขกฎเกณฑ์การมีบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ โดยขยายอายุให้คนไทยทุกคนต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนตั้งแต่ 1 ปีนับแต่วันเกิด หรือ 60 วันนับแต่วันได้สัญชาติไทย ทั้งนี้ ส.ว.ได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องที่มีการกำหนดว่าเด็กแรกเกิดก็ให้บัตรประชาชน ว่ามีความจำเป็นแค่ไหน และจะสร้างภาระในสภาวะที่รัฐบาลต้องใช้เงิน
นาง นฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ประโยชน์มีแน่นอน แต่ต้องดูว่าเราสามารถใช้อย่างอื่นแทนได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้เสียงบประมาณมากมาย ตนเห็นว่าทำบัตรตั้งแต่อายุ 7 ปีน่าจะเหมาะสมกว่า เพื่อได้จัดการในเรื่องของการศึกษา
ด้าน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า เรื่องของอายุในการทำบัตรประชาชนนั้น ปัญหามีเพียงว่า แม้จะมีบัตร แต่ไม่สามารถแยกแยะหน้าตากับลายนิ้วมือจนถึงอายุ 15 ปี จะได้ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
ขณะที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงว่า การมีบัตรตั้งแต่ 1 ปีมีประโยชน์มากมายหลายประการ โดยเฉพาะการเข้าถึงบริการของรัฐหลายอย่าง เช่น โรงพยาบาล ทั้งนี้ การทำบัตรไม่ได้เป็นการเพิ่มภาระ เพราะการทำบัตรครั้งแรกไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ.

กฤษฎีกาชงกฎกระทรวงมท.เข้าครม. รับบัตรสมาร์ทการ์ดผิดสเปค9ล.ใบ -
มติชน Issued date 1 February 2011
ผู้ สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 31 มกราคม ว่า ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะเสนอร่างกฎกระทรวงมหาดไทย(ฉบับที่...) พ.ศ.... ออกตามความใน พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ.2526 เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังก่อนหน้านี้ ครม.มีมติให้แก้ไขกฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 22 (พ.ศ.2540) หาก ครม.เห็นชอบจะต้องประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้วมีผลบังคับใช้ต่อไป
ก่อน หน้านี้บัตรประชาชนแบบอเนกประสงค์(สมาร์ทการ์ด) ที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ผลิตมาไม่ตรงกับกฎกระทรวงมหาดไทย จำนวน 9 ล้านบัตร ทำให้กรมการปกครองไม่ยอมรับมอบบัตรสมาร์ทการ์ดดังกล่าวกลายเป็นความขัดแย้ง ระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงไอซีที จนกระทั่งครม.ต้องมีมติให้กระทรวงมหาดไทยไปแก้ไขกฎกระทรวง อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยยังมีความกังวลว่าการแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อรองรับบัตร ที่ผิดไปจากสเปค อาจทำให้เกิดปัญหาข้อกฎหมายตามมาในภายหลังดังนั้น ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะไม่เข้าร่วมประชุม ครม. โดยมีภารกิจเดินทางไปเปิดศูนย์ราชการที่ จ.บุรีรัมย์
ที่รัฐสภาผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภาที่มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธาน นายกฤช อาทิตย์แก้วส.ว.กำแพงเพชร ขอหารือกรณีปรากฏบทความทางหน้าสื่อโจมตีสมาร์ทการ์ด ประชาชนต้องใช้ใบเหลืองแทนบัตรประชาชน และเคยเสนอให้นายกฯตัดเงินเดือนรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยแต่ก็ทำไม่ได้ จึงฝากนายกฯเร่งรีบทำบัตรประชาชนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

ผลักดันแม่สอดขึ้นชั้นนครพิเศษใกล้ถึงฝั่ง -
ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
ตาก - วันที่ 31 มกราคม 2554 นายวิรัช ร่มเย็น ประธานคณะกรรมาธิการปกครองส่วนท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานประชุมร่วมระหว่างคณะ กรรมาธิการและผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น นำโดยนายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศ มนตรีนครแม่สอด
นาย เทอดเกียรติกล่าวในที่ประชุมว่า อปท.รูปแบบพิเศษ "นครแม่สอด" เกิดจากความต้องการของประชาชนในท้องถิ่น ประกอบกับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญและนำไปเป็นนโยบายของรัฐบาลในการกระจายอำนาจไปสู่ อปท. อีกทั้งคณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎร ยังเห็นถึงประโยชน์และความสำคัญที่ท้องถิ่นจะได้รับ จึงประสานงานกันทำให้การผลักดัน อปท.รูปแบบพิเศษ "นครแม่สอด" เดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว และขณะนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีไปแล้วเมื่อวันที่ 22 เม.ย.53 และอยู่ระหว่างการตรวจสอบร่าง พ.ร.บ.นครแม่สอด 110 มาตรา จากคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งต้องขอบคุณคณะกรรมาธิการฯ ที่มาลงพื้นที่ประชุมร่วมกันเพื่อความชัดเจน
ขณะที่นายวิรัช กล่าวว่า ท้องถิ่นพิเศษแม่สอดชัดเจนมากขึ้น ขั้นตอนกำลังเดินหน้าอย่างรวดเร็วเนื่องจากรัฐบาลให้ความสำคัญ ซึ่งนครแม่สอดจะ สามารถดูแลและบริหารจัดการท้องถิ่นได้ด้วยตน เอง ทั้งการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว การค้าชายแดน การส่งเสริมการลงทุนและดูแลประชาชน.

สับมท.หักดิบบังคับปรับลดสมาชิกสภาอบต. -
ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
เชียงราย - ชมรมนายก อบต.เชียงรายสับเละ มท.หักดิบปรับลดสมาชิก อบต.จากหมู่บ้านละ 2 คนเหลือ 1 คน ระบุรัฐบาลต้องการให้อยู่ในกำมือ เรียกร้องสิทธิอะไรก็ทำไม่ได้
นายสุวิทย์ แก้วพนัส นายก อบต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย ในฐานะประธานชมรมนายก อบต.จ. เชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้เกิดกระแสการเคลื่อนไหวของสมาชิก อบต.และนายก อบต. ที่ไม่เห็นด้วยกับร่างประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่กระ ทรวงมหาดไทยปรับปรุงบัญชีค่าตอบแทนผู้บริหารท้องถิ่นและข้อบังคับใหม่หลาย ข้อ โดยเฉพาะประเด็นร้อนที่จะกำหนดให้มีสมาชิกสภา อบต.หมู่บ้านละ 1 คนจากเดิมหมู่บ้านละ 2 คน และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 เมษายน 2554 เป็นต้นไป
นายสุวิทย์กล่าวว่า การปรับร่าง กม.ใหม่ให้ลดสมาชิก อบต.ไม่ควรจะมาหักดิบบังคับใช้กับ อบต.ทุกแห่ง เพราะจะทำให้มีกระแสต่อต้านคัดค้านทั่วประเทศ ความวุ่นวายจะตามมา เพราะกระทบต่อผู้ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ จะให้จับฉลากหรือให้เสียสละคนใดคนหนึ่งออกไปคงเป็นไปไม่ได้ กระทรวงมหาดไทยควรใช้วิธีเริ่มใช้กับ อบต.ที่หมดวาระ เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่ก็ให้ยึดถือให้มีสมาชิกสภา อบต.หมู่บ้านละ 1 คน อบต.ใดที่ยังไม่หมดวาระก็ให้บริหารแบบมีสมาชิก 2 คนไปก่อนจนครบวาระ ไม่ใช่จะมาบังคับกันเลย
"ทุกวันนี้บทบาทและการสนับสนุนต่างๆ จากส่วนกลางมายังท้องถิ่นก็มีน้อยลงทุกขณะ ความไม่ชัดเจนเรื่องการขึ้นค่าตอบแทน การอุดหนุน การจัดสรรงบประมาณต่างๆ ก็ล่าช้า เหมือนรัฐบาลต้องการให้ อบต.อยู่ในกำมือ การเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมทำไม่ได้ การจะนำคนไปชุมนุมหรือยื่นหนังสือกดดันรัฐบาลก็จะมีการใช้อำนาจของนักการ เมืองสั่งการผ่านผู้ว่าฯ ให้เข้าควบคุม ผู้นำ อบต.รายใดฝ่าฝืนไม่ทำตามก็จะใช้อำนาจผู้ว่าฯ สั่งปลดได้ ทำให้สมาชิกหลายคนไม่กล้าออกมาปกป้องเรียกร้องสิทธิ์"
ขณะที่ กลุ่มสมาชิก อบต.เชียงรายกล่าวว่า ร่าง กม.อปท.ครั้งนี้ถือเป็นการแทรกแซงระบบการปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เชื่อว่าจะมีการนักเมืองระดับประเทศเข้ามาล้วงลูกผ่านกระทรวงมหาดไทย ทุกวันนี้ปัญหาใน จ.เชียงรายมีมาก การมีสมาชิก อบต.หมู่บ้านละ 2 คนยังน้อยไปด้วยซ้ำ.

คอลัมน์ สะเก็ดการเมือง: ตั้ง "ถาวร" สานงาน มท.-ศอ.บต. -
บ้านเมือง ฉบับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
นาย ถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย เปิดเผยว่า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ลงนามแต่งตั้งให้เป็นผู้ประสานงาน ของกระทรวงกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ภายหลัง พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีผลบังคับและทำให้ ศอ.บต.ไม่ได้ขึ้นกับกระทรวงมหาดไทยอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม รู้สึกเป็นห่วงการให้ความร่วมมือของผู้ว่าราชการจังหวัดกับนายอำเภอที่มีต่อ องค์กรที่เกิดขึ้นใหม่คือ ศอ.บต. ซึ่งตนยังต้องเป็นผู้ประสานงาน คอยกำกับให้ข้าราชการมหาดไทยให้ความร่วมมือรับนโยบายข้อสั่งการมาจาก ศอ.บต. โดยเฉพาะศูนย์ปฏิบัติการระดับอำเภอ นายอำเภอต้องให้ความร่วมมือเพื่อให้แผนพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ประสบความสำเร็จ

ส.ว.ผ่านกม.จังหวัดบึงกาฬวาระแรก -
มติชน Issued date 1 February 2011
เมื่อ วันที่ 31 มกราคม มีการประชุมวุฒิสภาเพื่อพิจารณาเรื่องด่วน ร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ... ที่สภาผู้แทนราษฎรผ่านความเห็นชอบแล้ว โดย ส.ว.ส่วนใหญ่แสดงความเป็นห่วงประชาชนในจ.บึงกาฬ จะไม่สามารถเลือกตั้ง ส.ว.ได้นาน9 ปี หากร่างกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ไม่ทันการหมดวาระของ ส.ว.สรรหาในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ ทั้งนี้ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า ได้ปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาในมาตรา 2 โดยกำหนดให้มีผลใช้บังคับถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากเดิมที่กำหนดให้มีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน นับแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้น หากร่าง พ.ร.บ.นี้มีผลบังคับใช้ก่อนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ จะสามารถเลือกตั้ง ส.ว.บึงกาฬ ได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยจะมี ส.ว.เลือกตั้ง 77 คน และ ส.ว.สรรหา 73 คน รวม ส.ว.ทั้งหมด 150 คน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด จากนั้น ที่ประชุมลงมติผ่านร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ ด้วยคะแนน 84 เสียง ไม่เห็นชอบ 5 เสียง พร้อมกำหนดเวลาแปรญัตติภายใน 3 วัน และมอบหมายให้กมธ.การปกครอง วุฒิสภา รับไปดำเนินการ

คอลัมน์ รอบรั้วอปท. -
เดลินิวส์ Issued date 31 January 2011
'ศรราม'
รอบ รั้ว อปท.ข่าวสังคมในแวดวงการปกครองท้องถิ่นวันนี้จันทร์ที่ 31 มกราคม 2554... หลังผู้บริหาร อบต.ได้ขึ้นเงินเดือนไปแล้ว ล่าสุดสมาชิกสภา อบต.ก็เริ่มขยับขอมั่ง ได้หรือไม่? ต้องรอลุ้น?...ณรงค์ ด่านชัยวิโรจน์ นายกเทศบาล อโยธยา เมืองกรุงเก่า อยุธยา ฝากบอกไปถึงผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตเทศบาลฯ ถึงเรื่องการชดเชยช่วยเหลือ ว่าทุกหลังคาเรือนต้องได้รับเหมือนกันหมด เพราะเสนอเรื่องไปแล้ว แต่อาจมีตกหล่นไปบ้าง กำลังให้เจ้าหน้าที่ติดตามไม่ต้องห่วง... ที่เมืองอุทัยธานี สมศักดิ์ วงษ์นาค นายก อบต.หนองไผ่แบน ทำงานสร้างสรรค์ผลงานไว้มาก ทำให้ได้รับรางวัลบริหารจัดการดีเด่นของกระทรวงมหาดไทยหลายปีติดต่อกัน ล่าสุด ประสาน อบจ.นำเครื่องจักรมาขุดสระน้ำเอื้ออาทร ไว้ช่วยชาวบ้านช่วงหน้าแล้งหมู่บ้านละ 3 สระ เพื่อให้มีใช้อุปโภคบริโภคยามขาดแคลน... เกรงชาวบ้านจะหลงลืมวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย ไปปลื้มกับสื่อแสงสีของต่างแดน พะเยาว์ เนตรอินทร์ นายกเทศมนตรีตำบลตะกุด อ.เมืองสระบุรี จึงพยายามอนุรักษ์ประเพณีดั้งเดิมของไทย ให้อยู่คู่กับสังคมบ้านเราเสมอมา โดยเมื่อพ้นเทศกาลปีใหม่ไม่นาน นายกไฟแรง ก็เริ่มเตรียมงานประเพณีในเทศกาลสงกรานต์แต่เนิ่น ๆ หวังให้พี่น้องประชาชนได้สนุกสนานกันเต็มที่...